Y2K คืออะไร |
ปัญหาปี ค.ศ.2000 คือ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์และ เครื่องมือทุกชนิดที่มีส่วนการควบคุมการทำงานที่เรียกว่า Microprocesser การ ทำงานต่าง ๆ มีการคำนวณ เกี่ยวกับวันที่และเวลาในตัวของ Microprocesser ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นส่วนนี้เราเรียกว่า RTC (Real Time Clock) หากอุปกรณ์ใดที่ไม่มี การใช้วันที่และเวลา ก็จะมีผลกระทบน้อยหรืออาจไม่มีผลกระทบจากปัญหาปี ค.ศ .2000 เลย |
เมื่อเราใช้วันที่และเวลาในการคำนวณหาค่าต่าง ๆ เช่น ดอกเบี้ย เงินฝาก การ ประกันภัย หากมีการคำนวณผิดพลาดขึ้นมาก็จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และขาดความเชื่อถือจากลูกค้าธนาคาร การดำเนินการทางธุรกิจก็จะขาดความ เชื่อมั่นซึ่งมีผลเสียที่รุนแรงต่อระบบธุรกิจ |
อย่างไรก็ดี ปัญหาปี 2000 เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความเชื่อถือของระบบ และหาก ปัญหานั้นเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ยิ่งต้องสร้างความน่าเชื่อถือแบบ ร้อยเปอร์เซนต์ จึงทำให้การดำเนินการแก้ปัญหาปี 2000 เป็นเรื่องยากขึ้น เพราะ ต้องสร้างความเชื่อถือทุกระดับ |
โดยดั้งเดิมนั้นมีคอมพิวเตอร์และโปรแกรมทั้งโปรแกรมระบบและโปรแกรมใช้งาน หลายระบบมีโครงสร้างการเก็บ จำนวนปีเพียง 2 หลักท้าย เช่น 89 แทน 1989 ทั้งนี้อาจเป็นเพื่อ ประหยัดเนื้อที่เก็บข้อมูลหรือประหยัดเวลาในการกรอก ข้อมูล และในบางครั้งก็อาจเป็นผล เนื่องมาจากความคิดไม่ถึง ดังนั้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 ผ่านพ้นไป ข้อมูลที่กำหนดหรือ ป้อนเข้าไปใหม่ด้วย คศ.เพียง 2 หลัก คือ 00 ซึ่งควรหมายถึง คศ.2000 นั้นอาจถูกคอมพิวเตอร์ ตี ความว่าเป็นปีคศ.1900 ได้ ดังนั้น หากมีการประมวลผลบางประการ เช่น คิดอายุของบุคคล ผู้ที่ เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1975 จะมีอายุจากการคำนวณ (วันเดือนปีปัจจุบัน ลบด้วย วันเดือนปีเกิด) ให้ ผลเป็น -75 ปี (อีก 75 ปีจึงจะเกิด) |
หากเป็นโปรแกรมที่มีการตรวจสอบข้อมูลผิดพลาดอาจรายงานว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือบางโปรแกรมที่ไม่ได้ ตรวจ สอบก็จะแสดงอายุ -75 ปีออกมา การคิดสวัสดิการ เงินตอบแทน จากการทำงานก็ดี การคิดดอกเบี้ยเงินกู้หรือ เงินฝากก็ดี ก็อาจเกิดความผิดพลาดได้ทั้งสิ้น สาเหตุ ของการเกิดปัญหามีได้หลายประการ เช่น เกิดจากโครงสร้างฮาร์ดแวร์ โปรแกรมระบบเช่น Operating System โปรแกรมใช้งานต่างๆ โครงสร้างฐานข้อมูล ฯลฯ |
ในด้านฮาร์ดแวร์ ปัญหาสำคัญอยู่ที่วงจรและโครงสร้างการเก็บข้อมูลวันที่ที่ถูกสร้างขึ้น อัตโนมัติ ในระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ควบคุม จะมีวงจรสร้างวันที่และเวลา ซึ่งจะเดินอยู่ ตลอดเวลาสร้างวันที่และเวลาอัตโนมัติ เพื่อให้โปรแกรมใช้งานได้ใช้อ่านเพื่อนำไปประมวลผล หากวงจรดังกล่าวสร้างโครงสร้างของปีคศ.เพียง 2 หลัก ก็จะทำให้ วันที่ที่โปรแกรมจะได้รับนั้น เป็นสองหลักด้วย ปัญหาจากฮาร์ดแวร์เช่นนี้ จะส่งผลทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือหรือ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องอ่านบัตรลงเวลา เครื่องชุมสายโทรศัพท์ที่มีการบันทึกวันเวลาที่โทรเข้า -ออกเครื่องมือ หรือเครื่องควบคุมที่ต้องทำการซ่อมบำรุงหรือปรับแต่งเป็นระยะ อาจมีสัญญาณ เตือนเมื่อเกิดเงื่อนไขเวลาผิดปกติไป ปัญหาที่เกิดจากโปรแกรมระบบเช่น Operating System (OS.) เนื่องมาจากโปรแกรม Operating System (ตัวอย่าง เช่น MS.-DOS , Windows , Novell Netware , UNIX ฯลฯ) เป็นโปรแกรมตัวกลางระหว่าง โปรแกรมใช้งานกับกลไกด้านฮาร์ดแวร์ นั้น ส่วนหนึ่งได้แก่เรื่องของการดึงข้อมูลเวลา ซึ่งโปรแกรมต่างๆ เมื่อต้องการเวลาจะไม่ได้อ่าน จากวงจรฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ โดยตรง แต่จะอ่านผ่านโปรแกรม OS. โปรแกรม OS. ยังเป็น ส่วนที่จัดการกับการเก็บข้อมูลระบบไฟล์ด้วย |
ซึ่งเมื่อมีการบันทึกข้อมูลลงไฟล์ หรือแก้ไขไฟล์ข้อมูล OS.จะบันทึกเวลาที่ไฟล์ถูกบัน ทึกใหม่หรือแก้ไขล่าสุด ด้วย อีกประการหนึ่งคือOS. บางระบบ โดยเฉพาะสำหรับ เครื่องที่ บริการผู้ใช้หลายคน ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเวลาใช้งานของผู้ใช้ ในบางระบบจะคำนวณ เวลาที่ผู้ ใช้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อคิดค่าเช่าเวลาประมวลผล ดังนั้นหาก OS. เหล่านี้มีได้เตรียมโครง สร้างของข้อมูลเกี่ยวกับ วันที่ และวิธีการประมวลผล ให้สามารถรองรับปี คศ.จำนวน 2 หลัก แล้ว ก็จะเป็นตัวต้นเหตุก่อให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน |
โปรแกรมสำหรับใช้งาน หรือที่เรียกว่า Application โปรแกรมที่ใช้ตามวัตถุประสงค์ ต่างๆ นั้นก็เป็นต้นเหตุที่สำคัญ โปรแกรมใช้งานปัจจุบันมีทั้งโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีวัตถุ ประสงค์ใช้งานได้กว้างๆ เช่นโปรแกรมพิมพ์งาน หรือ Word Processor โปรแกรมคำนวณ Spread Sheet ฯลฯ โปรแกรมสำเร็จที่ใช้เฉพาะงานเช่น โปรแกรมบัญชี โปรแกรมระบบการผลิต โปรแกรมควบคุมคลังสินค้า ฯลฯ โปรแกรมที่สร้างเฉพาะกับหน่วยงานต่างๆ โปรแกรมในทุก ประเภทมักหนี ไม่พ้นที ่ต้องมีการใช้ข้อมูลวันที่ ทั้งในการเก็บข้อมูล การคำนวณข้อมูลซึ่งข้อมูล ที่ใช้ก็อาจเป็นข้อมูลที่ ป้อนเข้าโดยผู้ใช้โปรแกรมหรืออาจเป็นข้อมูลวันที่ที่สร้างขึ้นจากวงจร คอมพิวเตอร์ บางโปรแกรมอาจเขียนขึ้นจากภาษาที่ มีการกำหนดรูปแบบข้อมูลได้เองเช่นใน ภาษาโคบอลที่ใช้กันมากในงานธุรกิจ ข้อมูลวันที่เป็นข้อมูลที่ผู้เขียนโปรแกรมต้องกำหนด จำนวนหลักเอง หรือบางครั้งบางโปรแกรมอาจตั้งโครงสร้างการเก็บข้อมูลวันที่เป็นการเก็บคศ .เต็ม 4 หลัก แต่ในการรับเข้าข้อมูลอาจกำหนด ช่องให้ป้อน คศ. เพียง 2 หลักโปรแกรมจะเติม 19 นำหน้าเอง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้จะได้ป้อนตัวเลขน้อยๆ เช่นโปรแกรมที่สร้างจาก FoxPro ผู้เขียนโปรแกรมมักกำหนด Option Century Off คือไม่ต้องรับและแสดงหลักคศ. 2 หลัก หน้า |
ดังนั้นข้อผิดพลาดในโปรแกรม Application โดยสรุปอาจเกิดจาก การกำหนดโครง สร้างข้อมูล การสร้างส่วนป้อนเข้าข้อมูลแสดงผล หรือแม้แต่ส่วนการรับถ่ายทอดข้อ มูลกับโปรแกรมอื่นๆ วิธีการคำนวณหรือการประมวลผลที่เกี่ยวกับวันที่และช่วงเวลา และยัง ขึ้นกับ โปรแกรมบริหารฐานข้อมูลอีกด้วย โปรแกรมมากมายในปัจจุบันสร้างให้เป็นโปรแกรมที่ ใช้ระบบฐานข้อมูล Database system ซึ่งโปรแกรมใช้งานจะทำหน้าที่เพียงส่วนของการ ประมวลผล แต่การเก็บข้อมูลในอุปกรณ์บันทึกข้อมูล เช่นดิสก์ เป็นหน้าที่การจัดการของ โปรแกรมบริหารฐานข้อมูล (Database Management System-DBMS.) |
ดังนั้นโปรแกรมบริหารฐานข้อมูลและโครงสร้างฐานข้อมูลก็ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อาจก่อ ให้เกิดปัญหาด้านวันที่ปี 2000ได้เช่นกันและโดยเฉพาะ ในระบบฐานข้อมูลก็มักจะมีข้อมูลวันที่ ที่ระบบฐานข้อมูลนั้นจัดเตรียมให้โดยเฉพาะ ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า มีการส่งสัญญาณเตือน ให้มีการตระหนักมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากปี 2000 ในปัจจุบัน จึงมีแหล่งข้อมูลความรู้ให้ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวอยู่มาก และมีการจัดประชุมสัมมนา เกี่ยวกับวิกฤติปัญหานี้ เช่นกัน |
วิธีเตรียมการแก้ปัญหา 1. การวางแผนและกระตุ้นความสนใจ (พ.ศ .2538-2539) ท ให้ความรู้กับประชาคม โดยได้มีการสร้าง โฮมเพ็จและเอกสาร บนเครือข่ายนนทรีในเรื่อง ปัญหา ปี 2000 เพื่อให้ความรู้และกระตุ้นให้เกิด ความสนใจ ท ให้ข้อมูลและความรู้ ซึ่งได้มีการจัดทำเอกสาร เผยแพร่ สิ่งพิมพ์ โดยร่วมไปกับเอกสารเผยแพร่ ต่าง ๆ ของ มหาวิทยาลัยในหน่วยงานต่าง ๆ ท การสร้างความสนใจในหมู่ผู้บริหาร มีการเผย แพร่และให้ความรู้ใน ระดับผู้บริหาร ท การสร้างแผนการดำเนินการ มีการกำหนดแผน การดำเนินการโดยมี สำนักบริการคอมพิวเตอร์ เป็นผู้ดำเนินการหลัก
2. สำรวจปัญหา (2540-2541) ทำการสำรวจปัญหา ต่าง ๆ ในเรื่องอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หลักของมหาวิทยาลัย และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่กระจายอยู่ในมหาวิทยาลัย รวมทั้ง สำรวจปัญหาเกี่ยวกับระบบงานและระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งในการนี้สำนักบริการ คอมพิวเตอร์ได้ ออกแบบสำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ และระบบงาน ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2541 เพื่อจะได้กำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาต่อไป
3. กำหนดโครงงานแก้ปัญหา ปี 2000 (2541) มหาวิทยาลัยได้กำหนดโครงการ ในการ แก้ปัญหาปี ค.ศ.2000 อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีโครงงาน ที่ดำเนินการประกอบด้วย ท โครงการแก้ปัญหาระบบข้อมูลบริหารของ มหาวิทยาลัย ท โครงการระบบมาตรฐานการเชื่อมโยงระบบงาน ลงทะเบียนเรียนแบบออนไลน์ ท โครงการแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์หลักของ มหาวิทยาลัยทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ท โครงการสัมมนาวิธีการแก้ปัญหา Y2K ท โครงการแก้ปัญหาเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยว ข้องกับ Y2K
4. การทดสอบระบบ (พ.ศ.2542) มหาวิทยาลัย ได้เตรียมการให้ปี ค.ศ.1999 เป็นปีของ การทดสอบระบบงาน ซึ่งการทดสอบระบบงานนี้จะ เน้นกับงานทุกระบบที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย เน้นการ ทดสอบอุปกรณ์และแก้ไขปัญหาในการเชื่อมโยง
5. มาตรการฉุกเฉินในปี พ.ศ.2543 การดำเนินการ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2000 อาจจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด มหาวิทยาลัยได้เตรียมแผนการฉุกเฉินไว้ดังนี้ ท เตรียมการแก้ไขฉุกเฉินทางเทคนิค ท เตรียมการสนับสนุนเทคนิคหน่วยงานต่าง ๆ ใน มหาวิทยาลัย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น