วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Rue de siam

Rue de siam

                                    
    The Rue de Siam (or Siam Street) is the main arterial street of Brest. Its name comes from the arrival of three ambassadors led by Kosa Pan, sent by the King of Siam on the 29th of June 1686 to meet Louis XIV in Versailles. They went with six mandarins, three translators, two secretaries and a retinue of servants, loaded with presents. They traveled on the boats l'Oiseau and La Maligne.
They crossed Saint-Pierre Street to go to the hostel of the same name. The inhabitants were so amazed that they renamed the street. The street was quite narrow before World War II.
The Rue de Siam is quoted by Jacques Prévert in his poem Barbara.

Location

From the Place de la Liberté, in the centre of Brest, the Rue de Siam runs southwest to the Recouvrance Bridge, spanning the river PenfeldRecouvrance is a working-class district, from old Brest, in contrast to the Rue de Siam where there were all the chic stores and cafés of Brest, in the years 1950-60.
There used to be l’Épée Café on the right and Les Antilles Restaurant on the left. Midshipmen and officers from all nationalities used to have an aperitif at l’Épée and then, cross the Rue de Siam to have supper at Les Antilles.

The Arc de Triomphe

ประตูชัยฝรั่งเศส (The Arc de Triomphe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย
ประตูชัยฝรั่งเศส
ภาพประตูชัยฝรั่งเศสในยามค่ำคืน
ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1
ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร กว้าง 45 เมตร และลึก 22 เมตร เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัส ประตูชัยฝรั่งเศสมีความใหญ่มาก เพราะหลังจากมีการสวนสนามในปรุงปารีสเมื่อปี พ.ศ. 2462 ชาร์ลส์ โกดฟรัว ได้ขับเครื่องบินนีอูปอร์ต (Nieuport) ผ่านกลางประตูชัยฝรั่งเศสเพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1
[IMG00779:R] ประตูชัยฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีส ได้ถูกมอบหมายให้สร้างในปี พ.ศ. 2349 หลังจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1ได้รับชัยชนะในยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ กว่าจะวางรากฐานของการก่อสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปีไปแล้ว และในปี พ.ศ. 2353 เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เสด็จกรุงปารีสจากทางทิศตะวันตกพร้อมด้วยเจ้าสาว อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย ประตูชัยฝรั่งเศสก็ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ในแบบจำลองเท่านั้นเอง สถาปนิกฌอง ชาลแกร็งได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2354 ดังนั้นอูยงจึงได้ดูแลงานนี้ต่อมา ในช่วงราชวงศ์บูร์บงฟื้นฟู การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงและไปเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ ในระหว่าง พ.ศ. 2376 - พ.ศ. 2379 โดยสถาปนิกคือกูสต์ ต่อมาคืออูโยต์ ภายใต้การดูแลของหลุยส์-เอเตียนน์ เอริการ์ต เดอ ตูรี (Louis-Étienne Héricart de Thury)
การออกแบบ
ตั้งแต่การล่มสลายของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในปี พ.ศ. 2358 แล้ว ประตูชัยได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติ ซึ่งได้มีการเฉลิมฉลองกันในปีเดียวกันนั้นด้วย
แบบของประตูชัยนั้น ฌอง ชาลแกร็งเป็นผู้ออกแบบ ในรูปแบบศิลปะคลาสสิคใหม่ ที่ได้ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ช่างแกะสลักที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในรูปแกะสลักของประตูชัยฝรั่งเศสด้วย เช่น ฌอง-ปีแอร์ กอร์โตต์, ฟรองซัวส์ รูด, อองตวน เอเตกซ์, เจมส์ ปราดีเยร์และฟิลิปป์ โฌเซฟ อองรี ลาแมร์ รูปแกะสลักที่สำคัญไม่ได้เป็นลวดลายยาวบนกำแพง แต่เป็นรูปแกะสลักลอยตัวที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะติดกับตัวประตูชัย
รูปแกะสลัก 4 กลุ่มบริเวณฐานประตูชัยที่สำคัญ ได้แก่ : Le Départ de 1792 (เรียกว่า La Marseillaise) โดยฟรองซัวส์ รูด
Le Triomphe de 1810 โดยฌอง-ปีแอร์ กอร์โตต์
La Résistance de 1814 โดยอองตวน เอเตกซ์
La Paix de 1815 โดยอองตวน เอเตกซ์
การดูแลรักษา
ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 ประตูชัยฝรั่งเศสได้มีสีดำขึ้น เนื่องจากถูกเขม่าถ่านหิน ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2508 - พ.ศ. 2509 ประตูชัยได้ถูกทำความสะอาดโดยเครื่องพ่นทราย ในปัจจุบันคราบสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
การเข้าชม
การเข้าสู่ประตูชัยด้วยการเดินเท้านั้นคือผ่านทางเดินใต้ดิน ถ้าเดินข้างบนมักจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากจราจรอันคับคั่งบริเวณจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ประตูชัยจะมีลิฟต์ 1 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันได 284 ขั้นเพื่อขึ้นสู่ยอดประตูชัยหรือสามารถขึ้นลิฟต์ดังกล่าวและขึ้นบันไดอีก 46 ขั้นได้เหมือนกัน บนยอดของประตูชัยเป็นสถานที่ชมวิวได้สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีส เนื่องจากสามารถเห็นถนนใหญ่ 12 สายมาบรรจบกันยังประตูชัย (จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์) ได้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์หรือรถไฟฟ้าปารีสได้ โดยลงที่สถานีชาร์ลส์ เดอ โกลล์-เอตวล

เลขโรมัน

I  =  ๑
II = ๒
III = ๓
IV = ๔
V = ๕
VI = ๖
VII = ๗
VIII = ๘
IX = ๙
X = ๑๐
XI = ๑๑
XII = ๑๒
XIII = ๑๓
XIV = ๑๔
XV = ๑๕
XVI = ๑๖
XVII = ๑๗
XVIII = ๑๘
XIX  =  ๑๙
XX =  ๒๐
XXX =  ๓๐
XL =  ๔๐
L = ๕๐
LX = ๖๐
LXX = ๗๐
LXXX = ๘๐
XC = ๙๐
C = ๑๐๐
CC = ๒๐๐
CCC = ๓๐๐
CD = ๔๐๐
D = ๕๐๐
DC = ๖๐๐
DCC = ๗๐๐
DCCC = ๘๐๐
CM = ๙๐๐
M = ๑,๐๐๐
MM = ๒,๐๐๐
Y2K คืออะไร
                ปัญหาปี ค.ศ.2000 คือ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์และ เครื่องมือทุกชนิดที่มีส่วนการควบคุมการทำงานที่เรียกว่า Microprocesser การ ทำงานต่าง ๆ มีการคำนวณ เกี่ยวกับวันที่และเวลาในตัวของ Microprocesser ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นส่วนนี้เราเรียกว่า RTC (Real Time Clock) หากอุปกรณ์ใดที่ไม่มี การใช้วันที่และเวลา ก็จะมีผลกระทบน้อยหรืออาจไม่มีผลกระทบจากปัญหาปี ค.ศ .2000 เลย
                เมื่อเราใช้วันที่และเวลาในการคำนวณหาค่าต่าง ๆ เช่น ดอกเบี้ย เงินฝาก การ ประกันภัย หากมีการคำนวณผิดพลาดขึ้นมาก็จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และขาดความเชื่อถือจากลูกค้าธนาคาร การดำเนินการทางธุรกิจก็จะขาดความ เชื่อมั่นซึ่งมีผลเสียที่รุนแรงต่อระบบธุรกิจ
                อย่างไรก็ดี ปัญหาปี 2000 เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความเชื่อถือของระบบ และหาก ปัญหานั้นเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ยิ่งต้องสร้างความน่าเชื่อถือแบบ ร้อยเปอร์เซนต์ จึงทำให้การดำเนินการแก้ปัญหาปี 2000 เป็นเรื่องยากขึ้น เพราะ ต้องสร้างความเชื่อถือทุกระดับ
                โดยดั้งเดิมนั้นมีคอมพิวเตอร์และโปรแกรมทั้งโปรแกรมระบบและโปรแกรมใช้งาน หลายระบบมีโครงสร้างการเก็บ จำนวนปีเพียง 2 หลักท้าย เช่น 89 แทน 1989 ทั้งนี้อาจเป็นเพื่อ ประหยัดเนื้อที่เก็บข้อมูลหรือประหยัดเวลาในการกรอก ข้อมูล และในบางครั้งก็อาจเป็นผล เนื่องมาจากความคิดไม่ถึง ดังนั้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 ผ่านพ้นไป ข้อมูลที่กำหนดหรือ ป้อนเข้าไปใหม่ด้วย คศ.เพียง 2 หลัก คือ 00 ซึ่งควรหมายถึง คศ.2000 นั้นอาจถูกคอมพิวเตอร์ ตี ความว่าเป็นปีคศ.1900 ได้ ดังนั้น หากมีการประมวลผลบางประการ เช่น คิดอายุของบุคคล ผู้ที่ เกิดเมื่อ 1 มกราคม 1975 จะมีอายุจากการคำนวณ (วันเดือนปีปัจจุบัน ลบด้วย วันเดือนปีเกิด) ให้ ผลเป็น -75 ปี (อีก 75 ปีจึงจะเกิด)
                หากเป็นโปรแกรมที่มีการตรวจสอบข้อมูลผิดพลาดอาจรายงานว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือบางโปรแกรมที่ไม่ได้ ตรวจ สอบก็จะแสดงอายุ -75 ปีออกมา การคิดสวัสดิการ เงินตอบแทน จากการทำงานก็ดี การคิดดอกเบี้ยเงินกู้หรือ เงินฝากก็ดี ก็อาจเกิดความผิดพลาดได้ทั้งสิ้น สาเหตุ ของการเกิดปัญหามีได้หลายประการ เช่น เกิดจากโครงสร้างฮาร์ดแวร์ โปรแกรมระบบเช่น Operating System โปรแกรมใช้งานต่างๆ โครงสร้างฐานข้อมูล ฯล
                ในด้านฮาร์ดแวร์ ปัญหาสำคัญอยู่ที่วงจรและโครงสร้างการเก็บข้อมูลวันที่ที่ถูกสร้างขึ้น อัตโนมัติ ในระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ควบคุม จะมีวงจรสร้างวันที่และเวลา ซึ่งจะเดินอยู่ ตลอดเวลาสร้างวันที่และเวลาอัตโนมัติ เพื่อให้โปรแกรมใช้งานได้ใช้อ่านเพื่อนำไปประมวลผล หากวงจรดังกล่าวสร้างโครงสร้างของปีคศ.เพียง 2 หลัก ก็จะทำให้ วันที่ที่โปรแกรมจะได้รับนั้น เป็นสองหลักด้วย ปัญหาจากฮาร์ดแวร์เช่นนี้ จะส่งผลทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือหรือ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องอ่านบัตรลงเวลา เครื่องชุมสายโทรศัพท์ที่มีการบันทึกวันเวลาที่โทรเข้า -ออกเครื่องมือ หรือเครื่องควบคุมที่ต้องทำการซ่อมบำรุงหรือปรับแต่งเป็นระยะ อาจมีสัญญาณ เตือนเมื่อเกิดเงื่อนไขเวลาผิดปกติไป ปัญหาที่เกิดจากโปรแกรมระบบเช่น Operating System (OS.) เนื่องมาจากโปรแกรม Operating System (ตัวอย่าง เช่น MS.-DOS , Windows , Novell Netware , UNIX ฯลฯ) เป็นโปรแกรมตัวกลางระหว่าง โปรแกรมใช้งานกับกลไกด้านฮาร์ดแวร์ นั้น ส่วนหนึ่งได้แก่เรื่องของการดึงข้อมูลเวลา ซึ่งโปรแกรมต่างๆ เมื่อต้องการเวลาจะไม่ได้อ่าน จากวงจรฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ โดยตรง แต่จะอ่านผ่านโปรแกรม OS. โปรแกรม OS. ยังเป็น ส่วนที่จัดการกับการเก็บข้อมูลระบบไฟล์ด้วย
                ซึ่งเมื่อมีการบันทึกข้อมูลลงไฟล์ หรือแก้ไขไฟล์ข้อมูล OS.จะบันทึกเวลาที่ไฟล์ถูกบัน ทึกใหม่หรือแก้ไขล่าสุด ด้วย อีกประการหนึ่งคือOS. บางระบบ โดยเฉพาะสำหรับ เครื่องที่ บริการผู้ใช้หลายคน ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเวลาใช้งานของผู้ใช้ ในบางระบบจะคำนวณ เวลาที่ผู้ ใช้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อคิดค่าเช่าเวลาประมวลผล ดังนั้นหาก OS. เหล่านี้มีได้เตรียมโครง สร้างของข้อมูลเกี่ยวกับ วันที่ และวิธีการประมวลผล ให้สามารถรองรับปี คศ.จำนวน 2 หลัก แล้ว ก็จะเป็นตัวต้นเหตุก่อให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน
                โปรแกรมสำหรับใช้งาน หรือที่เรียกว่า Application โปรแกรมที่ใช้ตามวัตถุประสงค์ ต่างๆ นั้นก็เป็นต้นเหตุที่สำคัญ โปรแกรมใช้งานปัจจุบันมีทั้งโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีวัตถุ ประสงค์ใช้งานได้กว้างๆ เช่นโปรแกรมพิมพ์งาน หรือ Word Processor โปรแกรมคำนวณ Spread Sheet ฯลฯ โปรแกรมสำเร็จที่ใช้เฉพาะงานเช่น โปรแกรมบัญชี โปรแกรมระบบการผลิต โปรแกรมควบคุมคลังสินค้า ฯลฯ โปรแกรมที่สร้างเฉพาะกับหน่วยงานต่างๆ โปรแกรมในทุก ประเภทมักหนี ไม่พ้นที ่ต้องมีการใช้ข้อมูลวันที่ ทั้งในการเก็บข้อมูล การคำนวณข้อมูลซึ่งข้อมูล ที่ใช้ก็อาจเป็นข้อมูลที่ ป้อนเข้าโดยผู้ใช้โปรแกรมหรืออาจเป็นข้อมูลวันที่ที่สร้างขึ้นจากวงจร คอมพิวเตอร์ บางโปรแกรมอาจเขียนขึ้นจากภาษาที่ มีการกำหนดรูปแบบข้อมูลได้เองเช่นใน ภาษาโคบอลที่ใช้กันมากในงานธุรกิจ ข้อมูลวันที่เป็นข้อมูลที่ผู้เขียนโปรแกรมต้องกำหนด จำนวนหลักเอง หรือบางครั้งบางโปรแกรมอาจตั้งโครงสร้างการเก็บข้อมูลวันที่เป็นการเก็บคศ .เต็ม 4 หลัก แต่ในการรับเข้าข้อมูลอาจกำหนด ช่องให้ป้อน คศ. เพียง 2 หลักโปรแกรมจะเติม 19 นำหน้าเอง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้จะได้ป้อนตัวเลขน้อยๆ เช่นโปรแกรมที่สร้างจาก FoxPro ผู้เขียนโปรแกรมมักกำหนด Option Century Off คือไม่ต้องรับและแสดงหลักคศ. 2 หลัก หน้า
                ดังนั้นข้อผิดพลาดในโปรแกรม Application โดยสรุปอาจเกิดจาก การกำหนดโครง สร้างข้อมูล การสร้างส่วนป้อนเข้าข้อมูลแสดงผล หรือแม้แต่ส่วนการรับถ่ายทอดข้อ มูลกับโปรแกรมอื่นๆ วิธีการคำนวณหรือการประมวลผลที่เกี่ยวกับวันที่และช่วงเวลา และยัง ขึ้นกับ โปรแกรมบริหารฐานข้อมูลอีกด้วย โปรแกรมมากมายในปัจจุบันสร้างให้เป็นโปรแกรมที่ ใช้ระบบฐานข้อมูล Database system ซึ่งโปรแกรมใช้งานจะทำหน้าที่เพียงส่วนของการ ประมวลผล แต่การเก็บข้อมูลในอุปกรณ์บันทึกข้อมูล เช่นดิสก์ เป็นหน้าที่การจัดการของ โปรแกรมบริหารฐานข้อมูล (Database Management System-DBMS.)
                ดังนั้นโปรแกรมบริหารฐานข้อมูลและโครงสร้างฐานข้อมูลก็ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อาจก่อ ให้เกิดปัญหาด้านวันที่ปี 2000ได้เช่นกันและโดยเฉพาะ ในระบบฐานข้อมูลก็มักจะมีข้อมูลวันที่ ที่ระบบฐานข้อมูลนั้นจัดเตรียมให้โดยเฉพาะ ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า มีการส่งสัญญาณเตือน ให้มีการตระหนักมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากปี 2000 ในปัจจุบัน จึงมีแหล่งข้อมูลความรู้ให้ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวอยู่มาก และมีการจัดประชุมสัมมนา เกี่ยวกับวิกฤติปัญหานี้ เช่นกัน
วิธีเตรียมการแก้ปัญหา
                1. การวางแผนและกระตุ้นความสนใจ (พ.ศ .2538-2539) ท ให้ความรู้กับประชาคม โดยได้มีการสร้าง โฮมเพ็จและเอกสาร บนเครือข่ายนนทรีในเรื่อง ปัญหา ปี 2000 เพื่อให้ความรู้และกระตุ้นให้เกิด ความสนใจ ท ให้ข้อมูลและความรู้ ซึ่งได้มีการจัดทำเอกสาร เผยแพร่ สิ่งพิมพ์ โดยร่วมไปกับเอกสารเผยแพร่ ต่าง ๆ ของ มหาวิทยาลัยในหน่วยงานต่าง ๆ ท การสร้างความสนใจในหมู่ผู้บริหาร มีการเผย แพร่และให้ความรู้ใน ระดับผู้บริหาร ท การสร้างแผนการดำเนินการ มีการกำหนดแผน การดำเนินการโดยมี สำนักบริการคอมพิวเตอร์ เป็นผู้ดำเนินการหลัก
                2. สำรวจปัญหา (2540-2541) ทำการสำรวจปัญหา ต่าง ๆ ในเรื่องอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หลักของมหาวิทยาลัย และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่กระจายอยู่ในมหาวิทยาลัย รวมทั้ง สำรวจปัญหาเกี่ยวกับระบบงานและระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งในการนี้สำนักบริการ คอมพิวเตอร์ได้ ออกแบบสำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ และระบบงาน ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2541 เพื่อจะได้กำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาต่อไป
                3. กำหนดโครงงานแก้ปัญหา ปี 2000 (2541) มหาวิทยาลัยได้กำหนดโครงการ ในการ แก้ปัญหาปี ค.ศ.2000 อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีโครงงาน ที่ดำเนินการประกอบด้วย ท โครงการแก้ปัญหาระบบข้อมูลบริหารของ มหาวิทยาลัย ท โครงการระบบมาตรฐานการเชื่อมโยงระบบงาน ลงทะเบียนเรียนแบบออนไลน์ ท โครงการแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์หลักของ มหาวิทยาลัยทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ท โครงการสัมมนาวิธีการแก้ปัญหา Y2K ท โครงการแก้ปัญหาเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยว ข้องกับ Y2K
                4. การทดสอบระบบ (พ.ศ.2542) มหาวิทยาลัย ได้เตรียมการให้ปี ค.ศ.1999 เป็นปีของ การทดสอบระบบงาน ซึ่งการทดสอบระบบงานนี้จะ เน้นกับงานทุกระบบที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย เน้นการ ทดสอบอุปกรณ์และแก้ไขปัญหาในการเชื่อมโยง
                5. มาตรการฉุกเฉินในปี พ.ศ.2543 การดำเนินการ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2000 อาจจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด มหาวิทยาลัยได้เตรียมแผนการฉุกเฉินไว้ดังนี้ ท เตรียมการแก้ไขฉุกเฉินทางเทคนิค ท เตรียมการสนับสนุนเทคนิคหน่วยงานต่าง ๆ ใน มหาวิทยาลัย