วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

St. Patrick’s Day

       


                   ทุกๆ วันที่ 17 มีนาคม คือวัน St. Patrick’s Day จะว่าไปวัน St. Patrick’s Day มันก็ไม่ได้ถือเป็นวันหยุดสำคัญประจำชาติของอเมริกา แต่ในวันเดียวกันนี้ ในหลายๆประเทศต่างก็เฉลิมฉลอง ด้วย ขบวน พาเหรด ร้องรำทำเพลง และ การแต่งกายด้วยชุดสีเขียว ดูเหมือนว่าในประเทศอเมริกา เมื่อถึงวัน St. Patrick’s Day จะมีประเพณีที่นิยมทำกันมาต่อเนื่อง นั่นคือ การเดินขบวนพาเหรดที่ตกแต่งอย่างสร้างสรรค์ การเดินขบวนพาเหรดครั้งแรก เริ่มที่เมือง บอสตัน ในปี พ.ศ 1762

โดยชาว ไอริช ที่ อพยพ เข้ามาตั้งถิ่นฐานใน อเมริกา ในปีเริ่มแรก การเดินขบวนเฉลิมฉลอง มีจุดประสงค์เพื่อรำลึกถึง ประวติศาสตร์ของชนชาวไอริช แล้ว St. Patrick คือใครกันล่ะ? และ อะไรคือความหมายที่แท้จริงของ St. Patrick’s Day กันแน่? แม้จะไม่มีประวัติที่ชัดเจนอย่างแท้จริงเกี่ยวกับ St. Patric แต่มีหลายๆหลักฐานที่สนับสนุนว่า St.Patric เกิดที่ Scotland หรือ อีกที่ ที่อาจเป็นไปได้ คือ Wales ประเทศ อังกฤษ เมื่อราวๆปี คริสตศักราช 370 มีชื่อเดิมว่า Maewyn Succat Calpurnius และ Conchessa พ่อแม่ของ Maewyn Succat เป็นคนพื้นเมืองเชื้อสายสวิต ที่อาศัยอยู่ใน ประเทศอังกฤษ

ในช่วงวัยรุ่น Maewyn  ถูกลักพาตัวและส่งไปขายที่ slavery ใน Ireland เค้าถูกส่งตัวมาเป็นบาทหลวงที่โบสถ์แห่งหนึ่ง ในช่วงเวลานั้นเอง Maewyn ได้เรียนรู้และเริ่มซึมซับเรื่องของศาสนา เค้าหลงไหลในการศึกษาศาสนา ในเวลานั้น Maewyn มีความตั้งใจว่า จะแล่นเรือออกไปนอก ไอร์แลนด์ เค้าได้ ล่องเรือไปตามชายฝั่งของไอร์แลนด์ เป็นระยะทางไกลถึงกว่า 100 ไมล์ จนมาถึงชายฝั่งของ ประเทศอังกฤษ

เมื่อมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว Maewyn ยังคงทำตามความตั้งใจของเขาต่อด้วยการเผยแพร่ปณิธานของเขา  เค้าได้บอกเล่าเกี่ยวกับความฝันของเค้าเกี่ยวกับ ชายที่ชื่อ Victoricus ผู้ซึ่งมาหาเค้าเมื่อตอนที่เค้ายังอยู่ที่ไอร์แลนด์ พร้อมด้วยจดหมายฉบับหนึ่ง และนี่คือสิ่งที่ Maewyn เขียนไว้ในบันทึกของเค้า …

“เมื่อ ครั้งแรกที่ผมได้อ่านจดหมายฉบันนั้น ผมได้ยินเสียงร่ำไห้ในเวลาเดียวกัน เสียงนั้น ร้องว่า “เราทั้งสาม อยู่ตรงนี้ ได้โปรด เดินมาหาเราด้วย”

หลังจากนั้น Maewyn เดินทางไปเรื่อยๆ เพราะผู้คนใน ไอร์แลนด์ ยังไม่ค่อยยอมรับความเชื่อที่ว่านี้มากนัก เค้าเดินทางไปจนถึงฝรั่งเศส และได้บวชเป็นบาทหลวง จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Patrick (ความหมายใน ภาษาละติน แปลว่า บิดาของปวงชน) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บาทหลวง Patrick ใช้ใบไม้ 3 ใบจากต้นแชมรอท (ต้นไม้ประจำชาติของไอร์แลนด์) เพื่อนำมาอธิบายคำสั่งสอน ให้กับชาวคริสเตียนถึงเรื่องส่วนประกอบ 3 องค์ คือ พระบิดา พระบุตรและ จิตวิญญาณ (ข้อมูลจาก http://www.yindii.com)

ภาย หลังจากการเสียชีวิตของ บาทหลวง Patrick ได้ถูกสถาปนาเป็นนักบุญ(โดยมีคำว่า Saint) นำหน้าเพื่อเป็นเกียรติืแก่เขา ดังนั้นเพื่อลำลึกถึง St.Patrick ผู้ซึ่งเป็นนักบวชสอนศาสนาชาว ไอร์แลนด์ ทุกๆวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบวันตายของ St.Patrick ในทุกๆปี จึงมีการจัดขบวนพาเหรดและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียว เปรียบเสมือนตัวแทนของต้นแชมรอท นั่นเอง


                      

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวโรแมนติกที่สุดในโลก

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 10. Colmar ประเทศฝรั่งเศส เมือง Colmar ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมือง Colmar ก็คือ ไร่องุ่นจำนวนมาก เคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม และบรรยากาศ ที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมือง Colmar เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝัน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 9. Paris ประเทศฝรั่งเศส เมืองปารีส มีสมญานามว่า “สวรรค์แห่งความโรแมนติก” (Heaven of Romantic) ดังที่ สถานที่แห่งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่คุณและคนรัก จะสารภาพ “รักนิรันดร์” ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมืองปารีส อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ Le Louvre (พิพิธภัณฑ์ ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก) หอไอเฟล ,โรงแรม Disney Land Resort ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Centre Pompidou และสถานที่สวยงามอื่น ๆ อีกมากมาย การไปเที่ยว กับคนรักที่ปารีส หากจัดสรรเวลาให้ดีก็จะคุ้มค่ามาก และสถานที่แห่งนี้จะเก็บความโรแมนติก อยู่ในใจของคุณไปอีกนานแสนนาน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 8.Venice ประเทศอิตาลี หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่จะเอ่ยกับคนรักว่า เขาหรือเธอ เป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต Venice ก็คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ! เมือง Venice มีชื่อเสียงโด่งดังในด้าน สุดยอดสถาปัตยกรรม และยังมีหลายสถานที่โรแมนติก เช่น สะพานเก่าแก่ Ponte dei Sospiri, จตุรัส Piazza San Marco ที่ได้รับสมณานามว่า “ห้องจิตรกรรมของยุโรป” (The - drawing room of Europe) และคลองในตัวเมือง “Canale Grande” ทั้งหมดนี้จะสร้าง ความโรแมนติก ระดับหรูหรา ให้กับคนรักและตัวคุณ
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 7. Schloss Neuschwanstein ประเทศเยอรมันนี สถานที่ที่ผสมผสาน ความสวยงามตามธรรมชาติ เข้ากับจินตนาการ และความสร้างสรรค์ของมนุษย์ ได้อย่างลงตัว เมือง SchlossNeuschwanstein มีความสวยงาม ราวกับเป็นสวรรค์บนพื้นโลก รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงาม ปราสาทเก่าแก่อายุ 100 กว่าปี (สร้างปี 1899) ซึ่งเยอรมัน ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีปราสาทสวยงามที่สุดในยุโรป
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 6. Vienna ประเทศออสเตรีย เมือง Vienna ในประเทศออสเตรีย เป็นอีกสถานที่ที่มีคู่รักจากทั่วทุกมุมของโลก แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงาม สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ สุดยอดสถาปัตยกรรม และสุดยอดผลงานเพลงศิลปะ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก พระราชวัง Schoenbrunn, พระราชวัง Belvedere, พระราชวัง The Hofburg Imperial และพิพิธภัณฑ์นักจิตวิทยาผู้โด่งดัง Sigmund Freud
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 5. Monte Carlo ประเทศโมนาโค เมือง Monte Carlo ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติก ที่คุณจะได้สื่อความรัก ไปยังคนรักของคุณ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนของเทือกเขาแอลป์ และเป็น สถานที่ที่มีเรื่องราวของความรัก ก่อกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งที่น่าสนใจของเมือง Monte Carlo คือบ่อนคาสิโนเลื่องชื่อ (Monte Carlo Casino) พิพิธภัณธ์ทางทะเล, พิพิธภัณฑ์ประจำชาติ และพระราชวัง Prince
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 4. Prague สาธารณรัฐเช็ก อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสถานที่โรแมนติก ก็คือ เมือง Prague ของสาธารณรัฐเช็ก สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย วัฒนธรรม และปราสาทเก่าแก่ ผู้คนที่มีมิตรไมตรี และสุภาพอ่อนโยน เมือง Prague เป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีระดับโลก อย่าง Mozart และมีชื่อเสียง ในเรื่องของทางเดินอันสวยงามในเมือง ที่คู่รักสามารถใช้เวลาเดินเล่นด้วยกัน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 3. New York ประเทศสหรัฐอเมริกา เมือง New York เหมาะสำหรับคู่รัก ที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะใช้ ช่วงเวลาแห่งความรัก และความโรแมนติก ในหลากหลายรูปแบบ ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก และสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟ Grand Central Terminal, อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ Central Park (มีกิจกรรมคอนเสิร์ต, มีลานสเก็ตน้ำแข็ง)
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 2. Cairo ประเทศอียิปต์ เมือง Cario ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสวรรค์บนโลกเช่นเดียวกัน (โดยเฉพาะสำหรับคู่รัก) ความงดงามและมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวเมือง คือแรงดึงดูด ให้คู่รักเดินทางมาใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยกัน และปิรามิด ก็คือสิ่งที่พิเศษที่สุด ท่ามกลางความสวยงามในตัวเมือง
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 1. Mauritius Island มหาสมุทรอินเดีย สถานที่แห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า “ปลายทางสุดท้าย ที่โรแมนติกมากที่สุด” (Ultimate Romantic Destination) เกาะ Mauritius มีชื่อเสียง อย่างมาก ในหมู่คู่รักที่จะมาท่องเที่ยว หรือคู่รักที่จะมาฮันนีมูน ต้นปาล์มมากมายที่เคลื่อนที่พริ้วไหว ไปตามสายลม บรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ แนวหินปะการัง และท้องทะเลสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่งในอีกหลาย ๆ สิ่ง ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้สวยงามจนยากที่จะลืมเลือน

รายชื่อ 10 อันดับ เมืองที่มหาเศรษฐีอยู่มากที่สุด

  1. มอสโก ประเทศรัสเซีย จำนวน 78 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 3.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน




               2. นิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา จำนวน 57 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 2.28 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน 





               3. ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จำนวน 39 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 1.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 3.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน 




               4. ฮ่องกง ประเทศจีน จำนวน 38 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 1.54 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 4.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ต่อคน 




               5. อิสตันบูล ประเทศตุรกี จำนวน 30 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน 




               6. เซา เปาโล ประเทศบราซิล จำนวน 19 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 8.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 4.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน




               7. โซล ประเทศเกาหลีใต้จำนวน 19 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 2.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน




               8. มุมไบ ประเทศอินเดีย จำนวน 18 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 8.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 4.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน 




               9. ซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา จำนวน 18 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 2.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน 




               10. ดัลลัส สหรัฐอเมริกา จำนวน 17 คน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 5.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ย 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน